เมนู

สัจจนิคันถบุตรสรรเสริญ


[432 ] ครั้นพระผู้มีพระภาคเจ้า ตรัสอย่างนี้แล้ว สัจจกนิคันถบุตร
ได้กล่าวคำนี้กะพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า พระโคดม น่าอัศจรรย์ เรื่องนี้ไม่เคยมี
พระโคดม. เมื่อพระโคดมถูกว่ากระทบอยู่ ถูกรุมด้วยถ้อยคำที่บุคคลนำเข้า
ไปกล่าว (ว่าเปรียบ) อยู่ ถึงเพียงนี้ ผิวพรรณคงผุดผ่อง สีพระพักตร์ก็ยังสด
ใสอยู่นั่นเอง สมกับเป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า. พระโคดม ข้าพระองค์
ยังจำได้อยู่ เรื่องปรารภถ้อยคำด้วยถ้อยคำกับครู แม้ครูปูรณกัสสปะ
นั้น ถูกข้าพระองค์ปรารภถ้อยคำด้วยถ้อยคำเข้าแล้ว ได้โต้ตอบคำอื่นด้วยคำ
อื่น นำถ้อยคำหลีกออกภายนอกเสีย ได้ทำความโกรธด้วยความประทุษร้าย
ด้วยความแค้นด้วยให้ปรากฏ. ส่วนเมื่อพระโคดม ถูกว่ากระทบๆ อยู่ ถูกรุม
ด้วยถ้อยคำที่บุคคลนำเข้าไปกล่าวอยู่ อย่างนี้ ผิวพรรณยังผุดผ่อง สีพระ
พักตร์ก็ยังสดใสอยู่นั่นเอง สมกับเป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า. พระ
โคดม ข้าพระองค์ยังจำได้อยู่ เรื่องปรารภถ้อยคำด้วยถ้อยคำกับมักขลิโคสาล
...อชติเกสกัมพละ...ปกุธะกัจจายนะ...สัญชยเวลัฏฐบุตร...นิคันถ-
นาฏบุตร...พระโคดม ข้าพระองค์จะขอทูลลาไปเดี๋ยวนี้ ข้าพระองค์มีกิจ
มาก มีธุระมาก.
พ. อัคคิเวสสนะ ท่านสำคัญกาลอันควร ณ บัดนี้เถิด.
ลำดับนั้น สัจจกนิคันถบุตร เพลิดเพลินอนุโมทนาพระพุทธภาษิต
แห่งพระผู้มีพระภาคเจ้า ลุกขึ้นจากอาสนะแล้วหลีกไป.

จบมหาสัจจกสูตร ที่ 6

อรรถกถามหาสัจจกสูตร


มหาสัจจกสูตร มีบทเริ่มต้นว่า เอวมฺเม สุตํ.
บรรดาบทเหล่านั้น ด้วย 3 บทว่า เอกํ สมยํ 1 เตน โข ปน สมเยน 1
ปุพฺพณฺหสมยํ 1
ท่านกล่าวเป็นสมัยหนึ่ง. ก็เวลาพวกภิกษุทำการปฏิบัติ
ตน ล้างหน้า ถือบาตรและจีวรไหว้พระเจดีย์แล้ว ยืนอยู่ในโรงวิตกว่าเรา
จักเข้าไปบ้านไหน. สมัยเห็นปานนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้า ทรงผ้าแดง 2
ชั้น รัดประคต ทรงจีวรบังสุกุล เฉวียงบ่า เสด็จจากพระคันธกุฏี อันหมู่ภิกษุ
ห้อมล้อม ประทับยืนที่มุขพระคันธกุฏี. สัจจกนิคันถบุตร หมายเอาข้อนั้น
แล้ว จึงกล่าวว่า เอกํ สมยํ เตน โข ปน สมเยน ปุพฺพณฺหสนยํ ดังนี้. บท
ว่า ปวิสิตุกาโม ได้แก่ ตกลงพระทัยอย่างนี้ว่า เราจักเข้าไปบิณฑบาต.
บทว่า เตนุปสงฺกมิ ถามว่า สัจจกนิคันถบุตรเข้าไปหาเพราะเหตุไร. ตอบ
ว่า โดยอัธยาศัยเพื่อโต้วาทะ ได้ยินว่า นิครนถ์นั้น ได้มีความคิดอย่างนี้
ว่า คราวก่อนเราเพราะไม่ได้เป็นบัณฑิตจึงพาเอาเวสาลีบริษัททั้งสิ้น ไปยัง
สำนักของพระสมณโคดม จึงเป็นผู้เก้อในท่ามกลางบริษัท แต่คราวนี้ เราไม่
ทำอย่างนั้น ไปผู้เดียว จักโต้วาทะ ถ้าเราจักสามารถให้พระสมณโคดมแพ้
ได้ จักแสดงลัทธิของตนแล้ว กระทำการชนะ ถ้าพระสมณโคดมจักชนะ
ใครๆ จักไม่รู้ เหมือนฟ้อนรำในที่มืด จึงถือเอาปัญหาคนเปลือยเข้าไปหาโดย
อัธยาศัยแห่งวาทะนี้.
บทว่า อนุกมฺปํ อุปาทาย ความว่า อาศัยความกรุณาแก่สัจจกนิคันถ
บุตร. ได้ยินว่า พระเถระได้มีความคิดอย่างนี้ว่า เมื่อพระผู้มีพระภาคเจ้าประ-
ทับนั่งพักสักครู่ เขาจักได้เฝ้าพระพุทธเจ้าและจักได้การฟังธรรม การ
เฝ้าพระพุทธเจ้าและการฟังธรรมจักเป็นไปเพื่อประโยชน์ เพื่อความสุขแก่